กิจกรรมศิลปะ

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2551

บันทึกการเข้าเรียน วันที่ 3 ธันวาคม 2551



สวัสดีค่ะ เมื่อวันพุธที่ผ่านมาได้เรียนวิชาการจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย อาจารย์ได้ทบทวนความรุ้เดิมของสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นวันที่ข้าพเจ้าไม่ได้มาเรียนเพราะไปต่างจังหวัดแต่ก็เป็นเรื่องที่นับว่าโชคดีมากๆที่อาจารย์ได้ทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสามารถพอสรุปได้ดังนี้
- ทฤษฏีเป็นกุญแจสำคัญที่สะท้อนการติดต่อของครู
- ผู้เรียนต้องเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ ครูผู้สอนควรบูรณาการด้านภาษา
เทคนิกการนำเข้าสู่บทเรียน
- การร้องเพลง
- การเล่านิทาน
- ปริศนาคำถาม
- คำคล้องจอง
- เกม เช่น ภาพตัดต่อ จับคู่ภาพ
ขั้นสอน
- การสาธิตกระบวนการทำ เพราะการสาธิตเป็นลำดับขั้นตอน
การสอนภาษาโดยองค์รวม
นักการศึกษาได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับทฤษฎีการศึกษาโดยองค์รวมไว้ดังนี้
เพียเจต์
เด็กจะเรียนรู้ผ่านกิจกรรมด้วยการเคลื่อนใหวและมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างเป็นองค์ความรู้ ขั้นภายในตนเองโดยเด็กเป็นผู้กระทำ ก่อให้เกิดการเรียนรู้ในการคิดด้วยตนเองจึงกล่าวได้ว่า การเรียนรู้ของเด็กเกิดขึ้นจากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมผ่านการเล่นซึ่งช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ภาษาจากกิจกรรมที่ทำร่วมกันและรายบุคคล
ไวกอตสกี
การเรียนรู้ภาษาของเด็กเกิดขึ้นได้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลใกล้เคียง เช่น พ่อ แม่ เพื่อน ครู บริบทหรือสิ่งต่างๆรอบตัวมีอิทธิพลต่อเด็กในการช่วยเหลือให้ลงมือทำเป็นขั้นตอนผ่านการและกิจกรรมนำไปสู่การเรียนรู้ภาษาผ่านการใช้สัญลักษณ์
ฮอลลิเดย์
บริบทสิ่งแวดล้อมในสถานการณ์ที่หลากหลายมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ และการใช้ภาษาของเด็ก เด็กจะเป็นผู้ใช้ภาษาในการมีปฎิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่เกี่ยวข้องในการเรียนรู้ทุกสิ่งผ่านภาษาและเรียนเกี่ยวกับภาษาไปพร้อมๆกัน
กู๊ดแมน
ภาษาเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับชีวิตเด็ก เด็กต้องเรียนรู้ภาษาและต้องใช้ภาษาและต้องใช้ภาษาเพื่อการเรียนรู้ ดังนั้นครูต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับภาษาหลังจากเรียนเนื้อหา
กระบวนการเรียน
บรรยากาศการเรียน มีลักษณะของการร่วมมือกันระหว่างครูและเด็กๆ ตั้งแต่การวางแผน คือ คิดด้วยกันว่าจะทำอะไร ทำเมื่อไร ทำอย่างไร จำเป็นต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไร จะหาสิ่งที่ต้องการมาไดอย่างไร
การวางแผนจะมีทั้งระยะยาว( long- range plans) เพื่อวางกรอบความคิดกว้าง
การวางแผนระยะสั้น(shot- range plans) โดยเด็กและครูจะใช้ความคิดพูดคุยปรึกษากันเพื่อหารายละเอียดและขั้นตอนในการทำกิจกรรม
การฟังและพูดของเด็ก
เด็กมีโอกาสได้ยินเสียงแม่พูด แม้ว่ายังพูดไม่ได้ เด็กเกิดการเรียนรู้ภาษาพูดเพราะการสอนเด็กให้พูดนั้นเด็กจำเป็นต้องได้ยิน ได้ฟังภาษาพูดก่อน ยิ่งได้ฟังมากจะเข้าใจชัดเจนขึ้น
เด็กวัย 2-3 ขวบการพูดของแม่จะช่วยให้ลูกมีพพัฒนาการทางภาษาที่ดี การสนทนา การซักถาม เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันเป็นสิ่งที่จำเป็นในการส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ในด้านการเข้าใจความหมายของภาษาจากเรื่องง่ายไปหาเรื่องที่ยากและสลับซับซ้อนมากขึ้น ภาษามีบทบาทในการสื่อสารความคิดรวมไปถึงจินตนาการ เพื่อตอบสนองความต้องการของตนได้เป็นอย่างดี
การอ่านและเขียน
การอ่านหนังสือให้เด็กฟังทุกวันเป็นสิ่งจำเป็นในการให้โอกาสเด็กเรียนรู้เพื่อพัฒนาการเขียน ขณะที่อ่านควรชี้นิ้วตามตัวหนังสือไปด้วย ทำให้เด็กเรียนรู้กฏเกณฑ์ทุกขั้นตอน สิ่งที่สำคัญคือ การให้เด็กเรียนรู้ที่จะเข้าใจประเด็นในเรื่องท่อ่านว่าสิ่งที่ประกอบกันขึ้นคือรวมทั้งหมดที่เป็นเนื้อหาที่นำเสนอระบบการคิดผ่านไวยากรณ์ของภาษา ควรสนทนากับเด็กเกี่ยวกับกฏเกณฑ์ทางภาษาอย่างง่ายๆ เนื้อหาที่อ่านควรสัมพันธ์กับสิ่งๆรอบตัว และพยายามเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมของเด็กตลอดเวลาเพื่อให้เห็นประโยชน์และความเกี่ยวพันของภาษาเขียนกับชีวิตจริง
จึงกล่าวได้ว่า การเขียน หมายถึง การสื่อสารเพื่อแสดงความคิดความรู้สึกออกมาอย่างความหมาย การเขียนและการอ่านจะดำเนินการไปพร้อมกัน เนื่องจากการเป็นนักเขียนที่ดีนั้นต้องอาศัยการอ่านที่แตกฉานในเรื่องนั้นๆ ส่วนการฝึกฝนให้เด็กเขียนหนังสือนั้น ครูต้องตระหนักว่าการฝึกเขียนที่ให้ลอกเลียนแบบโดยเด็กไม่ได้ใช้ความคิดเเต่เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมือหรือฝึกเฉพาะความสวยงามของลายมือแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับการเขียนที่มาจากความคิด
ภาษาที่ได้จากกาฝึกคิดและการถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นภาษาสัญลักษณ์ คือ ตัวอัการอย่างธรรมชาติจากการฟังมากได้อ่านมาก จนสามารถถ่ายทอดเองได้ และมาฝึกฝนความถูกต้อง สวยงามภายหลัง การอ่านนั้นสามารถทำได้ตลอดเวลาด้วยการอ่านจากหนังสือ การอ่านแผ่นป้ายโฆษณาบนถนน จากสิ่งรอบตัว จากถุงขนม
ความรู้ของเด็กจะเพิ่มพูนขึ้นเมื่อเด็กได้รับโอกาสในการทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการอ่านร่วมกับผู้ใหญ่ และกิจกรรมที่จัดให้เด็กให้อ่านเงียบๆตามลำพัง การอ่านกับเพื่อนเป็นคู่ เป็นกลุ่มย่อย เพื่ออภิปรายร่วมกัน ในการรับฟังและการตรวจสอบความคิดความเข้าใจซึ่งกันและกันโดยเฉพาะการอ่านจากสิ่งที่ครู-เด็กเขียนร่วมกัน หรือสิ่งที่เด็กเขียนขึ้นเอง
ลักษณะสำคัญและกิจกรรมทางภาษาแบบองค์รวม
อ่าน - เขียน
- เน้นความเข้าใจเนื้อเรื่องมากกว่าการท่องจำตัวหนังสือผ่านการฟังนิทาน เรื่องราวสนทนาโต้ตอบ คิดวิเคราะห์ร่วมกับครูหรือผู้ใหญ่
- การคาดคะเนโดยการเดาในขณะเขียน อ่าน และสะกด เป็นสิ่งที่ได้รับในการเรียนรู้ภาษาธรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องอ่านหรือสะกดถุกต้องทั้งหมด






วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

บันทึกการเข้าเรียนวันที่ 19 พ.ย. 2551

สวัสดีค่ะ ในเมื่อวันพุธ ที่ 19 ที่ผ่านมาได้มีเรียนวิชา การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย อาจารย์ได้พูดเกริ่นนำก่อนที่จะเข้าสู่บทเรียน ทั้งในเรื่องของการเล่านิทาน การร้องเพลงว่าเด็กได้ประโยชน์อย่างไรในเรื่องของภาษาจากการฟังนิทานและการร้องเพลง ซึ่งในระหว่งเรียนได้ทำกิจกรรมหลายอย่างเช่น กิจกรรมร้องเพลง โดยอาจารย์ให้ร้องเพลงคนละ 1 เพลง ข้าพเจ้าเลือกเพลง "ตา หู จมูก ปาก" ส่วนกิจกรรมที่2 คือ กิจกรรมการโฆษณา กิจกรรมนี้เป็นการแสดงบทบาทสมมุติ ซึ่งอาจารย์มีโจทย์มาว่าสิ่งของที่จะเสนอขายให้คิดว่าเบื่อแล้ว จึงอยากจะขาย โดยจะมีวิธีเสนอขายอย่างไรให้ดึงดูดใจผู้บริโภคมากที่สุด สิ่งของที่ข้าพเจ้านำมาเสนอขายคือ "กระเป๋าอเนกประสงค์" และอีกกิจกรรมหนึ่งคือ กิจกรรมการกล่าวความดี กิจกรรมนี้อาจารย์ได้ให้นั่งสมาธิแล้วนึกถึงความดีที่เราจะทำให้กับบุคคลรอบข้างเช่น คุณพ่อคุณแม่ ญาติพี่น้อง ครูอาจารย์ สังคม หรือประเทศชาติ ซึ่งความดีที่ข้าพเจ้าจะทำคือ การเป็นคนดีของสังคม พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่
นอกจากนี้อาจารย์ได้ให้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องต่างๆ ดังนี้
1. การที่คนเราจะเกิดการเรียนรู้ใหม่ได้ก็ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
2. ภาษาเป็นหนึ่งในทางด้านสติปัญญาที่มีสมองเป็นตัวควบคุม
3. สมองเด็กทำงานโดย "การซึมซับ"
4. เครื่องมือที่ซึมซับของเด็กคือ"ประสาทสัมผัสทั้ง 5"
5. พัฒนาการสมองตามลำดับขั้นของเด็ก
ช่วงแรกเกิดถึง 4 ขวบ
- ทารกแรกเกิดมีความสามารถในการฟังและจำเสียงแม่ การแยกความแตกต่างของเสียงได้
- เด็กจะแยกเสียงสูงต่ำได้
- เด็กจะเริ่มฟังเสียงที่ตนพอใจ และตอบสนองต่อเสียงนั้นได้ เช่น หันไปมองตามทิศทางของเสียง
- เด็กจะเริ่มเข้าใจความหมายของคำได้ โดยเชื่อมโยงสิ่งที่เห็นกับเสียงที่ได้ยิน
- เด็กจะเรียนรู้ศัพท์ต่างๆ ได้มากขึ้น
- เด็กจะรู้จักส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างน้อย 5 ส่วน ชี้รูปภาพได้ 2-3 รูป
- เข้าใจคำสั่งง่ายๆ เช่น เอาบอลวางใต้โต๊ะ
- สามารถเข้าใจคำถามง่ายๆ และตอบได้
ช่วง 4-5 ปี
- เริ่มใช้คำเป็นประโยคได้มากขึ้น
- เริ่มบอกเหตุผลอย่างที่ตาเห็นได้ (พอสมควร)
ช่วงปลายๆ 5 ขอบ (ขั้นอนุรักษ์)
- เริ่มให้เหตุผลที่ดีได้
- การคิดเชิงอนุรักษ์
6. เทคนิคการตั้งคำถาม (กิจกรรมวาดภาพ)
- อยากให้รูปที่วาดเป็นอะไร
- เวลาที่วาดนึกถึงอะไร



วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ความรู้สึก


สวัสดีค่ะ เมื่อวานนี้เรียนสนุกมากเพราะอาจารย์พาไปเรียนที่ห้องคอมสอนทำ Blog ทำไปเล่นไป ไม่ค่อยมีใครสนใจอาจารย์ เสียงก็เริ่มแหบลง (น่าสงสาร) แต่ก็ทำทันที่อาจารย์สอนเพราะ...เพื่อนแท้ๆ พอหมดคาบอาจารย์บอกว่าให้เก็บแป้น เก็บเม้าส์ เก็บ...ให้เรีบยร้อย ไอ้เราก็หวังดีกะจะเก็บให้แต่เกรงใจ (เก็บใส่กระเป๋า) กลัวเจ้าหน้าที่จะเขาว่า